สอนซ่อมรองเท้ากับซ่อมรองเท้าต่างกันไหม?

           สวัสดีครับ..ผมศิวกรณ์  ทัดดี หรือชื่อเดิมว่า สมคิด  ทัดดี  (ที่เปลี่ยนชื่อเพราะว่าพระท่านทักครับว่าถ้าหากเปลี่ยนแล้วจะร่ำจะรวยขึ้นอีกเป็นกองไอ้ผมก็อยากรวยหลาย ๆ กองซะด้วยก็เลยเปลี่ยนซะเลย..ฮิฮิ)  ผมเป็นช่างซ่อมรองเท้าครับ  และก็นอกจากการเป็นช่างซ่อมรองเ้ท้าแล้ว  ผมยังมีอาชีพเป็นคนสอนซ่อมรองเท้าครับ  งง..มั้ยครับว่ามันต่างกันยังไง  อาชีพซ่อมรองเท้าก็คือช่างซ่อมรองเท้าที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ นั่นแหละครับ  แต่อาชีพสอนซ่อมรองเท้าก็คือ..สอนให้รู้จักวิธีการซ่อมแซมรองเท้า รวมทั้งเครื่องหนังทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเข็มขัด กระเป๋า หรืออื่น ๆ ที่ทำด้วยหนังก็สามารถนำความรู้ในส่วนตรงนี้ไปปรับใช้ได้ครับ  
                จริง ๆ แล้วเริ่มแรกผมก็รับสอนทำรองเท้านะครับ  แต่ว่าผู้ที่มาเรียนนั้นส่วนมากต้องเป็นผู้ที่ตั้งใจจะไปทำรองเท้าขายเองหรือเปิดโรงงานเองซึ่งค่าใช้จ่ายจะสูงมาก   อีกทั้่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมีผู้ที่สนใจที่จะเปิดโรงงานเพื่อทำรองเท้าขายเองนั้นลดน้อยลง  ถ้าไม่แน่จริงหรือมีทุนมากพอก็อยู่ไม่ได้   ซึ่งแตกต่างจากงานซ่อม..ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว  โดยนำความรู้่ที่ได้ไปปรับให้เข้ากับจังหวะแฟชั่นหรือกระแสความนิยมในช่วงนั้น ๆ   หรือหากว่าไม่อยากที่จะเปิดร้านซ่อมรองเท้า   ก็สามารถที่จะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับความถนัดของตัวเอง  มีลูกศิษย์บางรายนำความรู้ที่ได้ไปทำเข็มขัด  กระเป๋าขาย  ได้กำไรกว่าเท่าตัวเพราะขายเองทำเอง   ออกแบบเองเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว


   

                                                                ผมเองครับ


          ที่เห็นในรูปคือผมเองครับ  ถ้าผมไม่มีงานสอนหรือธุระที่ไหนผมก็จะประจำอยู่ที่ลาดพร้าว 48 ครับ ไม่ได้เข้าซอยนะครับอยู่ปากซอยตรงป้ายรถเมล์พอดีครับ  หากคุณผ่านแถวลาดพร้าวแวะทักทายผมได้นะครับ..   หรือติดต่อ (081)580-5837 , (082)449-4929 ครับ   และ siwakorntuddee@gmail.com


จากงานซ่อมสู่งานสอน


          แต่ก่อนมนุษย์ไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้า  และไม่คิดว่ารองเท้าเป็นสิ่งสำคัญ  แต่เมื่อมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น  รองเท้าจึงเริ่มเป็นสิ่งจำเป็นที่มนุษย์ทุกคนควรมีไว้เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมถึงเชื้อโรคที่จะเข้ามาสู่ร่างกาย  ซึ่งก็ทำให้รองเท้าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมีและรักษามันไว้  ต่อให้คนที่ไม่ชอบใส่รองเท้าก็เถอะ อย่างน้อย ๆ ตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันคงไม่มีใครกล้าเถียงได้ว่า  ไม่เคยมีรองเท้าใส่เลยถูกไหมครับ
   
         เดิมทีการที่จะเป็นช่างซ่อมรองเท้านั้น  จะมีการถ่ายทอดความรู้ให้กันเฉพาะในหมู่เครือญาติหรือคนสนิทกันเท่านั้น  หากคุณไม่ใช่ญาติหรือคนที่สนิทกันจริง ๆ แล้ว  อย่าได้หวังว่าท่านเหล่านั้นจะถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาต่าง ๆ ให้กับคุณเลย  ต่อให้คุณไปนั่งเฝ้าเค้าเป็นเดือนๆ ก็เถอะ  เพราะเค้าถือว่าเป็นเคล็ดลับในการทำมาหากินเลี้ยงชีพ   หากบอกไปแล้วมีคนทำตามหรือมีคู่แข่ง   ก็จะทำมาหากินกันลำบาก..  เค้าเรียกว่ามันเป็นความลับทางธุรกิจที่ไม่อาจเปิดเผยให้บุคคลภายนอกรับรู้ได้ (แอบเวอร์นิดนึง..)   แต่ผมคิดว่า..คนเราทุกคนในสังคมปัจจุบันต้องใส่รองเท้าและทุกคนก็มีรองเท้าใส่กัน   เผลอ ๆ บางคนมีมากกว่า 10 คู่ด้วยซ้ำ   ประชากรประเทศไทยคร่าว ๆ  72 ล้านคน มีคนที่เป็นช่างซ่อมรองเท้าจริง ๆ  ไม่ถึง 1 ล้านคนด้วยซ้ำไป  คุณคิดดูซิว่าช่างที่ไหนจะไปทำกันไหวครับเนี่ย...(เข้าข้างตัวเองก็เป็นแฮะ..)   ผมก็เลยมีความคิดที่จะถ่ายทอดให้กับผู้ที่สนใจ  ไอ้ตอนแรกเนี่ยก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย  คิดแค่ว่ามีใครสนใจเรียนก็สอนกันไปตามเรื่องตามราวแบบ snake  snake  fish  fish  (แต่ไม่ได้มั่วนิ่มนะครับ  ทุกอย่างมีขั้นตอนเพียงแต่ยังไม่เป็นมือโปรเท่านั้น)   ผมติดป้ายที่ร้านว่ารับสอนซ่อมรองเท้า  พอดีมีพี่่ที่เคารพท่านนึงผ่านมาเห็นพี่แกว่าแปลกดีไอ้อาชีพสอนซ่อมรองเท้า  แกก็เลยพาผมไปที่ศูนย์์ฝึกอาชีพมติชนครับ  และนั่นก็เป็นการแจ้งเกิดของผมในฐานะ The star ครับ (อยากดังแบบเค้ามั่งอ่ะ^^)  ผมก็เลยได้เป็นวิทยากรที่ศูนย์ฝึกอาชีพมติชน  ผมเริ่มอาชีพสอนเมื่อปีพ.ศ. 2545 ครับ จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังสอนอยู่เลยครับ 
   
      แต่เนื่องจากว่าหลัง ๆ มีคนแอบนำชื่อผมไปหากินผมก็เลยต้องออกตัวซะหน่อยครับ  (เหมือนประมาณว่าทำหนังแล้วโดนแผ่นผี..ไม่มีผิดเลยแฮะ..พึ่งรู้ความรู้สึกว่าเค้าเป็นกันอย่างนี้นี่เอง..)  แต่ก็อย่างว่าล่ะครับทำอะไรก็ต้องมีคู่แข่งอยู่แล้ว  ผมใช้เวลากว่า 20 ปี ที่ผมต้องเรียนผิดเรียนถูกและเรียนแก้ด้วยตัวเอง   จนถึงวันนี้ผมจึงมั่นใจว่าผม..สามารถถ่ายทอดความรู้ของผมให้ผู้อื่นได้แน่นอน  และที่สำคัญผมกำลังจะจัดทำคู่มือการซ่อมรองเท้าออกมาใหม่ (ถ้าเสร็จเรียบร้อยดีเมื่อไหร่..จะบอกให้ทราบกันอีกทีครับ)  ชนิดที่ว่าคนที่ได้คู่มือเล่มเก่าของผมไปแล้วแอบไปทำเนียนเนี่ยเทียบไม่เห็นฝุ่นกันเลย (โม้..ไว้ก่อน) เพราะเนื้อหาที่ใส่เพิ่มเติมจากคู่มือเล่มเดิมนั้น  ก็เพิ่มเติมจากประสบการณ์ล้วน ๆ   ผ่านกาลเวลาและกระแสแฟชั่นที่ถาโถมเข้ามาอยู่ทุกวัน  แบบที่ว่าแม้คุณจะไม่เคยมีพื้นฐานหรือความรู้มาก่อน  หากคุณได้ดูคู่มือเล่มนี้  คุณก็จะสามารถซ่อมแซมรองเท้่าหรืองานเครื่องหนังของคุณได้เอง  แต่จะชำนาญหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน   ดังนั้นหากมีคู่แข่งผมก็ไม่หวั่นอยู่แล้ววววว...